การเข้าถึงเชือกคืออะไร ?
การเข้าถึงเชือกคือการใช้ระบบเชือกอย่างมืออาชีพเพื่อในงานต่างๆ เช่น โรยตัวตรวจสอบ การโรยตัวซ่อมบำรุงรักษา และ งานประเภทอื่นๆ การใช้เชือกในงานอุตสาหกรรมได้รับการริเริ่มโดยนักสำรวจที่ใช้เชือกเป็นคนแรกในการสำรวจถ้ำ และ ปีนเขา หลังจากนั้นก็ได้มีการปรับใช้กับงานประเภทต่างๆ มากมายในเวลาต่อมา
การใช้ระบบเชือกทำงานเพื่อเข้าถึงพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ หรือ พื้นที่ทำงานนั้นมีความยากลำบาก มีข้อจำกัดต่างๆ การเข้าถึงด้วยเชือกมักใช้ร่วมกับเทคนิคต่างๆ และ อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ในสภาพแวดล้อมที่อันตราย เช่น ความสูง พื้นที่จำกัด บนไซต์งานเหนือน้ำทะเล ไซต์งานก่อสร้าง ตึก อาคารสูง เป็นต้น
โดยช่างเทคนิคจะต้องสามารถทำงานบนที่สูงได้อย่างปลอดภัย และ มีประสิทธิภาพในขณะที่หลีกเลี่ยงอันตรายต่างๆเหล่านี้ด้วยเทคนิคต่างๆ วิธีการทำงานหรือเทคนิคการทำงานที่ปลอดภัยมักเริ่มต้นด้วยการ ทดสอบ ฝึกอบรม และ ผ่านการประเมิน ยืนยันว่าสามารถทำงานได้ตามมาตรฐานงานเข้าถึงเชือกได้อย่างถูกต้องปลอดภัย
จุดประสงค์หลักของการเข้าถึงเชือก
คือการช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าถึงสถานที่ที่ยากต่อการเข้าถึง พื้นที่จำกัด โดยไม่ต้องใช้นั่งร้าน แท่นวาง หรือ รถกระเช้าลอยฟ้า ช่างเทคนิคการเข้าถึงเชือกจะใช้เชือกเพื่อลง ขึ้น หรือ เคลื่อนที่ผ่านเชือกไปยังจุดต่างๆในขณะที่ยังคงมีสายรัดยึดไว้กับที่ และ บางครั้งที่นั่งทำงานบนเชือก เป็นต้น
การเข้าถึงด้วยเชือกได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกสำหรับงานอุตสาหกรรมในทศวรรษที่ 1980 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สมาคมการค้าเช่น IRATA (สมาคมการค้าการเข้าถึงเชือกอุตสาหกรรม) และ SPRAT (สมาคมช่างเทคนิคการเข้าถึงเชือกมืออาชีพ) ได้ทำการปรับปรุงเพิ่มเติม ทำให้กลายเป็นวิธีการที่ได้รับการทดสอบ และ มีน่าเชื่อถือได้สำหรับการเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ที่ยากต่อการเข้าถึงเพื่อทำงานด้วยระบบเชือก
ทุกวันนี้มีงานเข้าถึงเชือก และ งานที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงเชือกมากมาย ตัวอย่างเช่น ในภาคส่วนโยธา การใช้งานทั่วไป เช่น การทำความสะอาดหน้าต่าง การบำรุงรักษา และ การสนับสนุนในภาคอุตสาหกรรม การทำงานโดยทั่วไป คือ การทดสอบแบบไม่ทำลาย (หรือเรียกง่ายๆ ว่าการตรวจสอบ) เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในการเข้าใช้เชือก ช่างเทคนิคเกี่ยวกับเชือกมักจะใช้ระบบสำรอง (back up) ที่แตกต่างกันเล็กน้อยเพื่อให้มั่นใจว่ายังคงปลอดภัยในกรณีที่อุปกรณ์บางส่วนขัดข้อง
- ระบบป้องกันการตกสำรองซึ่งใช้เชือกสองเส้นเพื่อสำรองความปลอดภัย
- เชือกทำงาน และ เชือกนิรภัยสำรอง จุดยึดเพิ่มเติม — จุดยึดหลักหนึ่งจุด + จุดยึดสำรองสองจุด
ข้อดี ของการทำงานด้วยระบบเชือกตามมาตรฐานสากล
- มีความรวดเร็ว คล่องตัว
- มีความปลอดภัย
- ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าถึงสถานที่ที่ยากต่อการเข้าถึงเพื่อปฏิบัติงาน
- ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานอื่นๆ และพื้นที่โดยรอบน้อย
- เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการติดตั้งนั่งร้าน หรือ ใช้เครื่องจักร
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะไม่ต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ในการขนส่ง และช่วยให้คนไปถึงสถานที่ทำงานได้โดยไม่ต้องถางหรือปรับพื้นที่
- มีความยืดหยุ่นสูงในการวางแผนการทำงาน
ข้อควรระวัง
- ผู้ปฏิบัติงานต้องมีทักษะการทำงานตามมาตรฐานผ่านการอบรมโรยตัว rope access
- มีค่าใช้จ่ายในการใช้อุปกรณ์ที่เป็นมาตรฐาน
- ผู้ควบคุมงานด้วยระบบเชือกจะต้องมีประสบการณ์ ในการวางแผนการทำงาน และ แผนฉุกเฉิน
เมื่อเปรียบเทียบชั่วโมงการทำงานที่ต้องเสี่ยงภัยกับความเสี่ยง และ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการเข้าถึงสถานที่ดังกล่าวด้วยวิธีการเข้าถึงอื่นๆ โดยทั่วไป การเข้าถึงด้วยเชือกจะช่วยลดทั้งเวลาที่พนักงานต้องเผชิญกับความเสี่ยงและระดับของความเสี่ยงนั้นได้มากกว่า
มาตรฐานในการเข้าถึงเชือกในงานอุตสาหกรรม
เมื่อเราพูดถึงระบบการทำงานด้วยเชือกในที่นี้ เราหมายถึงแนวทางเกี่ยวกับวิธีการทำงาน โดยการใช้ระบบเชือกคู่ หรือ ทำงานด้วยเชือก 2 เส้น เสมอ ช่างเทคนิคจะต้องมีเชือกหลัก และ เชือกรอง โดยมีเชือกที่สองสำรองไว้ในกรณีที่เชือกแรกเกิดขัดข้อง ระบบเชือกหลัก และ รองต้องมีจุดยึดอย่างน้อยสองจุดเสมอนั้นคือกฎประการแรกที่สำคัญและไม่สามารถต่อรองได้
ทุกขั้นตอนจะต้องมีระบบการตรวจสอบ และ ทดสอบ เพื่อให้มั่นใจด้านความปลอดภัยที่เพียงพอต่อผู้ปฏิบัติงาน